ได้ยินกันมานานกับประโยคที่ว่า ‘ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น’ แต่เมื่อได้พูดคุยกับคุณปักษประสิทธิ์ (ปักษ์) สังข์รอด และคุณญาณิน (เทียน) พืชสะกะ ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า หรือประโยคสุดคลาสสิกนี้ควรปรับเป็น...วางความพยายามให้ถูกที่ ความสำเร็จดีๆ อยู่ไม่ไกล
หลังคุณปักษ์และคุณเทียนพบว่า สายงานวิศวกรน่าจะไม่ใช่เส้นทางสู่ความสำเร็จที่ปรารถนา ทั้งคู่ก็เริ่มมองหาเส้นทางอื่น และธุรกิจแอมเวย์คือตัวเลือกนั้น ทั้งที่ศึกษาเรียนรู้จนเข้าใจ ตั้งใจมุ่งมั่นลงมือทำ แต่อาจเพราะขาดผู้ชี้นำแนวทาง ธุรกิจของทั้งคู่จึงเติบโตแบบเนิบๆ จนเมื่อได้รับการชี้แนะแนวทางที่ถูกต้อง ความมุ่งมั่นตั้งใจที่สั่งสมมาจึงสัมฤทธิ์ผล “ความฝันขั้นแรกของเราเริ่มเป็นจริงครับ มีบ้าน มีรถ พาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ น้องเทียนออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวแล้วก็ดูแลธุรกิจด้วย”
ด้วยใจรักในสายงานที่ร่ำเรียน หลังธุรกิจแอมเวย์เริ่มเข้าที่ คุณปักษ์จึงหันไปมุ่งมั่นกับงานประจำจนได้เป็นวิศวกรยอดเยี่ยมของบริษัท แต่ปลายทางฝันที่ดูเหมือนจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมกลับไม่เป็นอย่างที่หวัง “ผ่านไป 6 ปี ผมถึงรู้ว่าสิ่งที่พยายามในงานประจำ สิ่งที่ตั้งใจไว้ สุดท้ายคือความว่างเปล่า กลับมานั่งคิดครับว่า ทำไมเราไม่เอาความพยายามนี้มาใส่ในธุรกิจของเรา ธุรกิจที่เราสามารถกำหนดความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้คนอื่นมากำหนดความสำเร็จ แอมเวย์เป็นธุรกิจที่ยุติธรรมครับ” คุณปักษ์จึงตัดสินใจลาออก และนั่นทำให้ชีวิตที่ราบรื่นเริ่มมีคลื่นก่อตัว “รายได้หลักหายไปเราจึงต้องเร่งสร้างธุรกิจให้เติบโตค่ะ”
คุณเทียนเล่า “ซึ่งก็ต้องใช้เวลา เทียนใช้วิธีให้ความหวังกับตัวเองว่า เราจะต้องโตขึ้น ไม่มีคำถามว่าจะสำเร็จไหม คำถามเดียวที่เรามีคือ ทำยังไงจึงจะไปถึงความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้เร็วที่สุดค่ะ”
วางความพยายามไว้ถูกที่ ความสำเร็จดีๆ จึงงอกเงยสมดังใจ “รู้สึกเป็นอิสระมากค่ะ เหมือนเราเป็นนกที่ได้เริ่มกางปีกบิน (ยิ้ม)” ด้วยความรู้สึกนี้ทำให้ปณิธานการก้าวเดินต่อไปของทั้งคู่คือ การเปิดโอกาสให้ผู้คนได้ใช้ความพยายามและความมุ่งมั่นให้ถูกที่ “เรารู้แล้วว่าความพยายามในธุรกิจนี้ให้ผลยังไง เราจึงอยากแบ่งปันโอกาสนี้ให้ผู้คน ให้เขาสำเร็จไปด้วยกันครับ” คุณปักษ์บอก “ในธุรกิจนี้ความสำเร็จไม่มีอะไรซับซ้อนค่ะ ทุกอย่างมีระบบให้เดินตาม แค่เราบริหารจัดการตัวเอง เรียนรู้ศึกษาแล้วลงมือทำ ค่อยๆ สะสมความสำเร็จไปทีละขั้น เราก็จะสำเร็จได้” คุณเทียนบอกด้วยรอยยิ้ม “ปิดประตูความล้มเหลวและมุ่งมั่นเดินหน้าสู่ความสำเร็จครับ” คุณปักษ์ย้ำความตั้งใจ “เมื่อเลือกแล้วว่าธุรกิจนี้ตอบโจทย์ความฝัน อย่าว่อกแว่ก บอกตัวเองว่า นี่คือธุรกิจของเรา ตั้งใจให้เต็มที่ ผมเชื่อว่าเราทุกคนจะสำเร็จไปด้วยกันได้แน่นอนครับ (ยิ้ม)”
สมัคร | ตุลาคม 2544 |
ระดับแพลตินัม | มีนาคม 2548 |
ระดับทับทิม | กรกฎาคม 2550 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2550 |
ระดับไพลิน | กรกฎาคม 2557 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2563 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2561 |
ระดับเพชร | สิงหาคม 2563 |
“ทุกคนเขียนนิยายชีวิตของตัวเองได้ครั้งเดียว จึงต้องเขียนให้ดีและควรเป็นตัวอย่างให้คนอื่นได้ด้วย” เป็นแนวคิดการดำเนินชีวิตของ พ.ต.ท.จิรายุทธ (เก็ต) คงคลัง และคุณธนพร (เบน) อนันตเสถ คุณเก็ตเล่าถึงจุดเริ่มต้นแรกว่า “ที่บ้านมีหนี้สินเยอะครับ ทำให้ผมมองหาอะไรทำตั้งแต่ตอนเรียนเพราะไม่อยากขอเงินที่บ้าน” โอกาสจึงเป็นสิ่งที่คุณเก็ตมองหามาโดยตลอด เพราะมองหาจึงมองเห็น เมื่อรุ่นพี่ชวนเพื่อนมาร่วมธุรกิจ คุณเก็ตก็ขอมาฟังด้วยและเมื่อได้ยินประโยค ‘ธุรกิจนี้ถ้าทำสำเร็จคุณจะเป็นคนจนรุ่นสุดท้ายของตระกูล’ คุณเก็ตก็ตัดสินใจทันที “ผมดูธุรกิจมาเยอะแต่ไม่มีธุรกิจไหนกล้ารับประกันแบบนี้ ผมเลยคิดว่าน่าลองครับ”
เพราะเป็นคนพูดจริงทำจริง คุณเก็ตจึงลงมือศึกษาอย่างจริงจังและชักชวนคนใกล้ตัวอย่างคุณเบน “คุณแม่ของเบนก็เคยทำธุรกิจค่ะ แต่เบนรู้สึกว่าไม่เหมาะกับเรา พอแม่รู้ว่าเก็ตทำก็บอกให้เบนสมัครเลยแล้วซื้อผงซักฟอกมาให้ด้วย (หัวเราะ)” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าวันที่ซื้อผงซักฟอกจะกลายเป็นวันเปลี่ยนชีวิต “วันนั้นได้เจอคุณอาวันชัย (คุณดารณี - คุณวันชัย รุ่งภูวภัทร นธอ.ระดับเพชรคู่สองผู้สถาปนา) ท่านคุยด้วยหลายอย่างจึงพบว่าธุรกิจนี้ที่เบนรู้จักกับที่คุณอารู้จักไม่เหมือนกัน ทำให้เอะใจและตัดสินใจเข้ามาเรียนรู้ค่ะ”
หนึ่ง เข้าใจแผนธุรกิจ สอง เข้าใจสินค้า สาม เชื่อว่าตัวเองทำได้ ขอเพียงมีสามข้อนี้ไม่ว่าใครก็ไปถึงความสำเร็จได้ และทั้งคู่ได้พิสูจน์ความเชื่อนี้ด้วยการกระทำ “รายได้จากธุรกิจแซงเงินเดือนตั้งแต่ปีแรกเลยครับ”
ขณะที่การทำธุรกิจของคุณเก็ตดูราบรื่นง่ายดาย สิ่งเดียวกันนี้กลับไม่ง่ายนักสำหรับคุณเบน “เก็ตบอกว่าง่ายมากแค่ชวนเพื่อนกินข้าวกินกาแฟ ซึ่งเบนเป็นคนรับคำปฏิเสธไม่ค่อยได้ คุณอาวันชัยสอนว่า คำปฏิเสธทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น เบนต้องใช้เวลาพัฒนาตัวเองในเซนเตอร์อยู่เป็นปีเลยค่ะ จากที่คิดว่าเราทำไม่ได้กลายเป็นเข้มแข็งขึ้น และเชื่อมั่น ในธุรกิจมากค่ะ (ยิ้ม)”
จากประสบการณ์บนเส้นทางธุรกิจ มีสิ่งหนึ่งที่ทั้งคู่เชื่อเหมือนกัน “เบนเชื่อว่าถ้าเราอยู่ให้นานพอมันจะมีวันของเราค่ะ เพราะธุรกิจนี้คือการค่อยๆ สะสมผู้คน สะสมความสำเร็จไปทีละขั้น” คุณเก็ตพยักหน้าเห็นพ้อง “คนเราจะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับบรรยากาศครับ ขอแค่คุณอยู่ในบรรยากาศให้นานพอ พฤติกรรมคุณจะเปลี่ยน พอพฤติกรรมเปลี่ยน ผลลัพธ์ก็เปลี่ยน ดังนั้น เลือกบรรยากาศที่จะหล่อหลอมคุณให้ถูก ใช้เวลากับมันให้นานพอ อย่าตัดสินตัวเองจากสิ่งที่คนอื่นบอก หาข้อมูล เรียนรู้และมีความเชื่อ ไม่มีใครทำอะไรเป็นมาตั้งแต่แรก ทั้งหมดอยู่ที่ความตั้งใจ ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถพัฒนาตัวเองไปถึงความสำเร็จที่ต้องการได้แน่นอนครับ (ยิ้ม)”
สมัคร | สิงหาคม 2551 |
ระดับแพลตินัม | กุมภาพันธ์ 2554 |
ระดับทับทิม | ตุลาคม 2557 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2555 |
ระดับไพลิน | พฤษภาคม 2560 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | กรกฎาคม 2562 |
ระดับมรกต | เมษายน 2562 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2563 |
ระดับเพชร | สิงหาคม 2563 |
“ผมไม่ใช่คนรักผู้คนเลยครับ และไม่เคยคิดว่าตัวเองจะรักผู้อื่นได้” เป็นประโยคหนึ่งที่คุณสุรสิทธิ์ (บอย) ชาวเวียง อธิบายถึงตัวเอง คุณบอยเล่าว่าอยากมีไลฟ์สไตล์แบบนักลงทุนที่มีอิสระทั้งเวลาและการเงิน ชีวิตส่วนใหญ่จึงมุ่งมั่นอยู่กับแวดวงการลงทุน จนเมื่อรุ่นพี่ที่รักและเคารพชักชวนให้มาทำธุรกิจนี้ คุณบอยจึงสมัครเพราะอยากให้ผู้เปิดโอกาสรู้สึกดี “ผมสมัครแต่ไม่คิดจะทำครับ” และเล่าต่อว่าจุดเปิดใจของเขามีสามสเต็ป “สเต็ปแรกคือ สนใจว่าเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นได้เลย สเต็ปต่อมาคือ ความท้าทาย อยากพิสูจน์ตัวเอง อยากรู้ว่าเราจะทำได้มั้ย” เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในสเต็ปที่สอง คุณบอยจึงเริ่มศึกษาธุรกิจอย่างจริงจังและนั่นนำมาสู่การเปิดใจในสเต็ปที่สาม “ผมพบว่าความสำเร็จทั้ง 6 มิติ คือ งาน เงิน อารมณ์ความรู้สึก ครอบครัว สุขภาพ และจิตวิญญาณ ทั้งหมดอยู่ในธุรกิจนี้ ซึ่งผมคิดว่ามีน้อยธุรกิจมากที่จะให้ครบแบบนี้ครับ”
“ในระยะแรกการสปอนเซอร์ของผมเหมือนเป็นการต่อสู้ระหว่างเรากับเขา ถ้าทำไม่สำเร็จจะรู้สึกพ่ายแพ้ รู้สึกแย่” แต่แล้ววันหนึ่งความรู้สึกนั้นกลับแปรเปลี่ยน “ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผมรู้สึกรักผู้อื่นขึ้นมาจริงๆ คนรอบตัวและกระทั่งตัวผมเองยังแปลกใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ผมห่วงใยคนอื่น ใจเย็นลง เฟรนด์ลี่ขึ้น รักผู้คนมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ชีวิตผมมีความสุขขึ้น และแปลกมากครับ พอผมใช้ ‘ความรักผู้อื่นอย่างจริงใจ’ ในการทำธุรกิจ เวลาสปอนเซอร์แล้วถูกปฏิเสธ ผมไม่รู้สึกแย่หรือพ่ายแพ้เลยกลับรู้สึกว่าเป็นการส่งต่อความรัก เหมือนคุณชวนเพื่อนไปกินข้าว ถ้าเพื่อนไม่ไปคุณก็ไม่รู้สึกว่าเพื่อนไม่รักเรา นี่ทำให้ผมรู้ว่า ถ้าเรารักผู้คนจริงๆ เราจะยอมรับความเป็นเขาและไม่หยุดที่จะหยิบยื่นสิ่งที่ดีให้ ตัวผมเองทำธุรกิจหลายอย่างแต่ผมชอบตัวเองเวลาทำธุรกิจแอมเวย์มากที่สุด (ยิ้ม)”
ธุรกิจแอมเวย์ไม่ใช่แค่การสร้างรายได้ แต่เป็นการขัดเกลาชีวิต จิตใจ และสร้างความสุข “ผมทำธุรกิจนี้เพื่อจิตใจตัวเองและสิ่งที่จะทำให้ใจผมมีความสุขก็คือ การได้เห็นความสำเร็จของดาวน์ไลน์ ได้ซัปพอร์ตเพราะผมรักและหวังดีกับเขา เวลาเขาสำเร็จผมดีใจยิ่งกว่าตัวเองสำเร็จซะอีก” คุณบอยสรุปปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่า “เรื่องนี้เกิดขึ้นได้เพราะผมเชื่ออัพไลน์ ผมว่าธุรกิจนี้จะสวยงามหรือไม่อยู่ที่การมองของเรา และอัพไลน์เป็นผู้มอบแว่นตาในการมองความสวยงามของธุรกิจนี้ให้ ผมอยู่กับเขา พูด คิดและมองโลกตามเขา ดังนั้น ผมบอกได้เลยว่าถ้าคุณอยากสำเร็จในธุรกิจนี้ ต้องเชื่ออัพไลน์ เขาจะขัดเกลาและพัฒนาคุณไปสู่จุดที่คุณสามารถรักทั้งตัวเองและผู้อื่นได้อย่างแท้จริง ซึ่งนั่นละครับจะทำให้คุณพบกับความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้ในที่สุด”
สมัคร | กุมภาพันธ์ 2552 |
ระดับแพลตินัม | กรกฎาคม 2555 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2556 |
ระดับไพลิน | สิงหาคม 2557 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | กรกฎาคม 2562 |
ระดับมรกต | พฤษภาคม 2562 |
ระดับเพชร | สิงหาคม 2563 |
คุณสิริมนต์ (เปิ้ล) บุญบูรพงศ์ และคุณพิชญ์ (พ้อย) ชินธรรมมิตร เติบโตในครอบครัวนักธุรกิจ คุณเปิ้ลนั้นไม่เพียงช่วยธุรกิจที่บ้านแต่ยังทำงานประจำในตำแหน่งผู้บริหารด้วย แม้ทั้งคู่จะมีงานเต็มสองมือ แต่เมื่อได้รู้จักธุรกิจแอมเวย์จากผู้เปิดโอกาส คุณภารดี ปิยะนันทวารินทร์ - คุณปัญจพล จุรีเกษ นธอ. ระดับเพชรคู่ ก็เปิดใจเข้ามาศึกษา “เราเห็นชีวิตของภา แล้วรู้สึกว่า ดี อยากมีชีวิตแบบนี้ ตอนแรกยังไม่ได้คิดทำจริงจัง คิดแค่ว่าที่นี่เป็นสังคมที่ดี มีแต่คนขยัน มีทัศนคติที่ดี แค่ได้อยู่ในสังคมนี้ก็คุ้มแล้วค่ะ”
การเปิดรับสิ่งใหม่ย่อมต้องปรับเปลี่ยน เมื่อทั้งคู่เข้าสู่ธุรกิจไม่ใช่แค่ต้องจัดสรรเวลา แต่ยังต้องบริหารจัดการความรู้สึกของคนในครอบครัวด้วย “ที่บ้านไม่เห็นด้วยเลยค่ะ ต้องแอบทำ (หัวเราะ) พอได้เข้ามาเรียนรู้แล้วรู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะเลือก และจะแลกค่ะ” เช่นเดียวกับคุณพ้อย “ช่วงแรกก็หนักหนาอยู่ครับ วิธีของผมคือ พยายามทำให้ทุกอย่างเหมือนเดิมมากที่สุด เขาจะได้ไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปครับ”
ด้วยแรงใจ แรงกาย มากกว่าผลลัพธ์ที่จับต้องได้คือ ความภาคภูมิใจในการได้สร้าง ‘ธุรกิจของตัวเอง’ คุณพ้อยบอกความรู้สึกว่า “ธุรกิจที่บ้านเป็นความภูมิใจครับ แต่นั่นเป็นการสานต่อ ผมอยากมีสิ่งที่พูดได้เต็มปากว่า เราสร้างขึ้นเองจากศูนย์ และธุรกิจนี้เป็นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะเริ่มได้ง่าย ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก ธุรกิจอื่นอาจต้องมีการลองผิดลองถูกแต่ธุรกิจนี้มีคนสอน มีความรู้สำเร็จรูปที่เรานำไปใช้ได้ทันที และสิ่งที่สอนไม่ใช่แค่ความรู้ในการทำงาน แต่ยังสอนเรื่องชีวิตทำให้เราใช้ชีวิต อย่างมีคุณค่ามากขึ้นด้วยครับ”
ทั้งคู่ตั้งธงที่จะเติบโตต่อไปตามแนวทางที่พวกเขาเชื่อมั่น “แรงบันดาลใจสำคัญคือ คุณแม่กับลูกสาวค่ะ อยากสำเร็จเร็วเพื่อจะได้ดูแลคุณแม่ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก นอกจากนี้เราอยาก Pay It Forward เพราะในธุรกิจอื่นเราต้องระวังหลังตลอด คิดลบเข้าไว้ เพราะกลัวพลาด แต่ในธุรกิจนี้ทุกคนคือเพื่อน คือครอบครัว เราจึงอยากส่งต่อสิ่งดีๆ ที่เราได้รับ ให้กับองค์กรซึ่งเป็นเหมือนครอบครัวของเราค่ะ เราขอขอบคุณ คุณเชวง คุณชยางกูร - คุณกัญญ์นลิน ปิยนันทวารินทร์ นธอ. ระดับมงกุฎทูตสองผู้สถาปนา ที่ให้ทั้งความรัก ความรู้ และความเชื่อ ตลอดเส้นทางความสำเร็จของเรา ผู้เป็นแบบอย่างทุกมิติของการเป็นลูกและพ่อแม่ที่ดี และประสบความสำเร็จ”
“ในการเริ่มต้นทุกอย่างอาจไม่เลิศหรู ไม่ราบรื่นครับ แต่ถ้าเราใช้เวลาอยู่กับมัน ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และเรียนรู้ให้มากขึ้น ทุกอย่างจะค่อยๆ ง่ายขึ้น ดีขึ้น และเข้าที่ ในธุรกิจนี้เราโชคดีที่มีคนแนะนำโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของเราเป็นหลัก ขอให้ทุกคนมุ่งมั่น อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะนั่นคือการพัฒนา และจะทำให้เราก้าวไปถึงความสำเร็จได้ครับ”
สมัคร | กันยายน 2553 |
ระดับแพลตินัม | กันยายน 2554 |
ระดับทับทิม | กรกฎาคม 2555 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2555 |
ระดับไพลิน | สิงหาคม 2557 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2562 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2557 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2562 |
ระดับเพชร | สิงหาคม 2563 |